มิงกาละปา มัณฑะเลย์ สักการะพระมหามัยมุนี 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า ล่องเรือไปตามแม่น้ำอิระวดีสู่ มิงกุน ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1000 รูป

มิงกาละปา มัณฑะเลย์  3 วัน ราคาเริ่มต้นเพียง 9,800 บาท เท่านั้น 

กำหนดการเดินทาง  กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 60

วันที่หนึ่ง         กรุงเทพฯ – มัณฑะเลย์ – วัดกุโสดอร์ – มัณฑะเลย์ฮิลล์ 

วันที่สอง          มัณฑะเลย์ – วิหารชเวนันดอร์ - พระราชวังมัณฑะเลย์ – สะพานไม้อูเป่ง – วัดมหากันดายงค์ - เมืองมิงกุน – เจดีย์มิงกุน - ระฆังมิงกุน – เจดีย์พินมิว – วัดกุโสดอร์ 

วันที่สาม         พิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี – กรุงเทพฯ  

สนใจโปรดติดต่อ 02-9357847-8 

อัตราค่าบริการ

ดือน

วันเดินทาง

ราคาผู้ใหญ่

(พักห้องละ 2-3 ท่าน)

ราคาเด็กเสริมเตียง

(พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน)

ราคาเด็กไม่เสริมเตียง

(พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน)

พักเดียวเพิ่ม

กุมภาพันธ์ 60

04-06 ก.พ. 60

06-08 ก.พ. 60

11-13 ก.พ. 60

13-15 ก.พ. 60

18-20 ก.พ. 60

20-22 ก.พ. 60

25-27 ก.พ. 60

27ก.พ.-01มี.ค.

8,999 บาท

1,900 บาท

มีนาคม 60

04-06 มี.ค. 60

06-08 มี.ค. 60

11-13 มี.ค. 60

13-15 มี.ค. 60

18-20 มี.ค. 60

20-22 มี.ค. 60

25-27 มี.ค. 60

27-29 มี.ค. 60

8,999 บาท

1,900 บาท

เมษายน 60

01-03 เม.ย. 60

08-10 เม.ย. 60

9,800 บาท

1,900 บาท

15-17 เม.ย. 60

10,900 บาท

1,900 บาท

22-24 เม.ย. 60

9,800 บาท

1,900 บาท

29เม.ย.-01มี.ค.

10,900 บาท

1,900 บาท

พฤษภาคม 60

06-08 พ.ค. 60

9,800 บาท

1,900 บาท

13-15 พ.ค. 60

9,900 บาท

1,900 บาท

20-22 พ.ค. 60

27-29 พ.ค. 60

9,800 บาท

1,900 บาท

 

กำหนดการเดินทาง  กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 60

วันที่หนึ่ง         กรุงเทพฯ – มัณฑะเลย์ – วัดกุโสดอร์ – มัณฑะเลย์ฮิลล์ 

12.00 น.        คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 6 สายการบิน เมียนมาร์ แอร์เวย์ (8M) เคาท์เตอร์ N1-4    ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางสังเกตุป้าย ทัวร์พม่าดีดี”

14.00 น.        ออกเดินทางโดย สายการบิน เมียนมาร์ แอร์เวย์ (8M) โดยเที่ยวบินที่ 8M33815.35 น.        ถึง สนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ นำท่านผ่านพิธีการ    ตรวจคนเข้าเมือง (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทย 30 นาที) เมืองมัณฑะเลย์ อดีตราชธานีของพม่า ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เมืองที่ยังคงใช้ ชื่อ     เดิมเรื่อยมาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตั้งอยู่บนที่ราบอันแห้งแล้งและเขตทำนาปลูกข้าวตามแนวลำน้ำเอยาวดีตอนบน มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน อากาศร้อน (ยกเว้น ช่วงฤดูหนาว ธันวา –กุมภา) ปัจจุบันมัณฑะเลย์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีนาฎศิลป์และคีตศิลป์ดีที่สุดในพม่า จากนั้นนำชม วัดกุโทดอร์ ใจกลางวัดเป็นเจดียืมหาล่อกะมาระเส่ง(มหาโลกมารซิน) สูง 30 เมตร ซึ่งจำลองแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม เป็นวัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่5 และ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการจารึกลงบนหินอ่อน 729 แผ่นเป็นภาษาบาลี ทั้งหมด จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ และต้องใช้พระสงค์ถึง 2,400 รูปในการคัดลอก และใช้เวลานานถึง หกเดือน กว่าจะแล้วเสร็จ พระไตยปิฏกที่ชำระขึ้นในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็น “พระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก” พาท่านชมทัศนียภาพของเมืองหลวงเก่าของพม่าที่ ภูเขามัณฑะเลย์ฮิลล์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่บนภูเขามัณฑะเลย์รอบวิหารมีระเบียงสำหรับชมทัศนียภาพเมืองมัณฑะเลย์ และสามารถมองเห็นแม่น้ำอิระวดี พระบรมมหาราชวัง วัดกุโสดอว์

ค่ำ                 รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร  

                      เข้าสู่พักที่ ณ SHWE PHYU HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

 

วันที่สอง          มัณฑะเลย์ – วิหารชเวนันดอร์ - พระราชวังมัณฑะเลย์ – สะพานไม้อูเป่ง – วัดมหากันดายงค์ - เมืองมิงกุน – เจดีย์มิงกุน  - ระฆังมิงกุน – เจดีย์พินมิว – วัดกุโสดอร์ 

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านสู่ ทะเลสาบต่าวตะหมั่น ระดับน้ำในทะเลสาบจะมีน้ำขึ้นเยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับฤดูกาล ช่วงฤดูหนาว น้ำจะแห้งกลายเป็นแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับทำการเพาะปลูก ในช่วงนั้น ชาวบ้านจึง มีการทำการเพาะปลูก หลายชนิด เช่น ข้าวโพด ข้าว แม้แต่ดอกทานตะวันก็ดูสวยงามในฤดูหนาว เหนือท้องน้ำมีสะพานไม้ ทอดข้ามทะเลสาบ 1.2 กิโลเมตร เรียกว่า สะพานไม้อูเป่ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก  สร้างขึ้นหลังจากที่ย้ายราชธานีมาอยู่ที่อมรปุระ เป็นสะพานไม้สักที่นำมาจากเมืองอังวะ โดยเสนาบดีของพระเจ้าโบ่ต่อพญา ชื่อว่า เสาอู  จึงเรียกชื่อสะพานไม้นี้ ตามชื่อ คือ อู่เป่ง เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้น ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี นำท่านทำบุญถวายปัจจัย ณ วัดมหากันดายงค์ ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบตองตะมาน ใกล้สะพานอูเบ็ง และเป็นวิทยาลัยสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดของพม่า มีภิกษุและสามเณรมาศึกษาเล่าเรียนทางธรรมกว่า 1,200 คน และมีพระภิกษุจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ มาบวชเรียนด้วย ซึ่งในช่วงเพลาจะมีภิกษุสงฆ์นับร้อยรูปเดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวมเพื่อรับบาตร จากนั้นนำชม วิหารชเวนันดอร์ ชมอาคารไม้สักทองสลักเสลาด้วยลวดลายที่งามวิจิตร อาคารนี้เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับของพระเจ้ามินดง เพียงหลังเดียวที่เหลือรอดมาได้ เมื่อสิ้นพระชนม์ลงแล้ว พระเจ้าทีปอ (กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า) ให้ย้ายมาไว้ยังที่ตั้งปัจจุบัน ได้รื้อมาถวายวัดภายในอาคารยังตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเล่าเรื่องมหาชาดก 10 ชาติ ที่ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุดนำท่านชม พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังหลวงของพระเจ้ามิงดง สร้างขึ้นตามผังภู  มิจักรวาลแบบพราหมณ์ปนพุทธ โดยสมมุติให้เป็นศูนย์กลางของโลก (เขาพระสุเมรุ) แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีกำแพงล้อมร้อบทั้งสี่ทิศ แต่ละทิศมีประตูทางเข้า 3 ประตู รวมทั้งสิ้น 12 ประตู ที่ประตู ทำสัญลักษณ์จักรราศีประดับเอาไว้ ใจกลางพระราชวังเป็นห้องพระมหาปราสาท (ห้องสีหาสนบัลลังก์) เป็น ปยัตตั้ด (ยอดปราสาท) หุ้มด้วยแผ่นทองซ้อนกัน เจ็ดชั้นสูง 78 เมตร เชื่อกันว่า ความเป็นไปในจักรวาลจะลอดผ่าน ยอดปราสาท ตรงลงมาสู่พระแท่นราชบัลลังก์ ช่วยให้กษัตริย์ตัดสินพระทัยในเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง แต่ปัจจุบันทางการพม่าได้จำลองขึ้นใหม่อีกครั้งบนฐานเดิม

เที่ยง              รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!!! กุ้งเผา                    

นำท่านสู่ เมืองมิงกุน โดยการล่องเรือไปตามแม่น้ำอิระวดีสู่ มิงกุน จากท่าเรือใกล้เจดีย์ชเวไจยัต เขตเมืองอมรปุระทวนน้ำไปหมู่บ้านมิงกุน ซึ้งเป็นส่วนหนึ่งของอมรปุระ แต่อยู่บนเกาะกลางลำน้ำอิรวดีและไปได้ด้วยเส้นทางเรือเท่านั้นทว่ามีอนุสรณ์สถานที่แสดงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปดุง ระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้านอิรวดีที่มีลักษณะเป็น “กึ่งบ้านกึ่งแพ” เนื่องจากร  ะดับน้ำอิรวดีในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะฤดูน้ำหลาก ระดับน้ำจะขึ้นสูงกว่าฤดูแล้วกว่า 10 เมตร ชาวพม่าจึงนิยมสร้างบ้านกึ่งแพ คือถ้าน้ำขึ้นสูงก็ร่วมแรงกันยกบ้านขึ้นที่ดอน ครั้นน้ำลงมากก็ยกบ้านมาตั้งใกล้น้ำ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้แม่น้ำในชีวิตประจำวัน นำท่านชม เจดีย์มิงกุน ร่องรอยแห่งความทะเยอทะยานของพระเจ้าปดุง ด้วยภายหลังทรงเคลื่อนทัพไปตียะไข่ แล้วสามารถชะลอพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์ เป็นผลสำเร็จ จึงทรงฮึกเหิมที่จะกระทำการใหญ่ขึ้นและยากขึ้น ด้วยการทำสงครามแผ่ขยายไปรอบด้าน พร้อมกับเกณฑ์แรงงานข้าทาสจำนวนมากก่อสร้างเจดีย์มิงกุนหรือเจดีย์จักรพรรดิ เพื่อประดิษฐานพระทันตธาตุที่ได้จากพระเจ้ากรุงจีนโดยทรงมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุกาม และใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ข้าทาสชาวยะไข่หรืออาระกันจำนวน 50,0  00 คนหลบหนีการขดขี่แรงงานไปอยู่ในเขตเบงกอลเป็นดินแดนในอาณัติของอังกฤษ แล้วทำการซ่องสุมกำลังเป็นกองโจร ลอบโจมตีกองทัพพม่าอยู่เนืองๆ โดยพม่ากล่าวหาว่าอังกฤษหนุนหลังกลายเป็นฉนวนให้เกิดสงครามอังกฤษ-พม่า อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พม่าเสียเมืองในที่สุด อย่างไรก็ตามงานก่อสร้างเจดีย์มิงกุนดำเนินไปได้เพียง 7 ปี พระเจ้าปดุงเสด็จสวรรคต ภายหลังทรงพ่ายแพ้ไทยในสงครามเก้าทัพ มหาเจดีย์อันยิ่งใหญ่ในพระราชหฤทัยของพระองค์จึงปรากฏเพียงแค่ฐาน ทว่าใหญ่โตมหึมาดั่งภูเขาอิฐที่มีความมั่นคงถึง 50เมตร ซึ่งหากสร้างเสร็จตามแผนจะเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก เพราะสูงถึง 152 เมตร ส่วนรอยแตกร้าวตรงกลางฐานเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี จากนั้นนำท่านชม ระฆังมิงกุน ไม่ไกลจากฐานเจดีย์มิงกุนคือระฆังมิงกุน ที่พระเจ้าปดุงโปรดฯให้สร้างโดยสำเร็จ เพื่ออุทิศทวายแด่มหาเจดีย์มิงกุน จึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร น้ำหนัก 87 ตัน เล่าขานกันว่า พระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบ จึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าระฆังแห่งหนึ่งแห่งพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโกเพียงใบเดียวทว่าระฆังเครมลินแตกร้าวไปแล้ว ชาวพม่าจึงภาคภูมิใจว่าระฆังมิงกุนเป็นระฆังยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงก้องกังวาน ทั้งนี้เคยมีการทดสอบความกว้างใหญ่ของระฆังใบนี้ โดยให้เด็กตัวเล็กๆ ไปยืนรวมกันอยู่ใต้ระฆังได้ถึง 100 คน จากนั้นนำชม เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) ประดิษฐานอยู่เหนือระฆังมิงกุนไม่ไกล ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยสง่ามากแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2359 โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร จึงได้รับสมญานามว่า ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี เจดีย์องค์นี้เป็นพุทธศิลป์ที่สร้างขึ้นด้วยหลักภูมิจักรวาลคือมีองค์เจดีย์สถิตอยู่ตรงกลาง ณ ยอดเขาพระสุเมรุ อันเชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางและโลกและจักรวาลล้อมรอบด้วยขุนเขาและมหาสมุทรตามหลักไตรภูมิ หลังจากนั้นเดินทางกลับมายังมัณฑะเลย์

ค่ำ                 รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

                     เข้าสู่พักที่ ณ SHWE PHYU HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

 

วันที่สาม         พิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี – กรุงเทพฯ  

03.30 น.        คณะพร้อมกัน ณ ล้อบบี้ของโรงแรม เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่ วัดมหามัยมุนี

04.00 น.        นำท่านนมัสการและร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมล้างหน้าพระพักตร์ พระมหามัยมุนี และร่วมกันถวายผ้าจีวรแด่พระมหามัยมุนี (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า) ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่อง เครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ถือเป็นสิ่งบูชาสูงสุดของชาวพม่า สมควาแก่เวลานำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก      

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

07.00 น.        นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ เพื่อเดินทางกลับ กรุงเทพฯ

10.40 น.        ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบินเมียร์มาร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 8M337

13.05 น.        ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจในบริการ

 

สนใจโปรดติดต่อ 02-9357847-8 

 

 

Home Short Description :

CPOT เราเป็นผู้นำด้านบริการท่องเที่ยวครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ทัวร์ต่างประเทศ จัดกรุ๊ปทัวร์ ทัวร์ดูงานแสดงสินค้า ทีมบิ้วดิ้ง รับทำวีซ่า และ รถเช่า ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี ทำให้เรามีครบทุกความต้องการของ ผู้รักการเดินทาง ท่องเที่ยว ทุกเพศ ทุกวัย  รามั่นใจในบริการท่องเที่ยวของเรา 100% จากเครือข่ายธุรกิจบริการท่องเที่ยวชั้นนำ ทั้งในและต่างประเทศ  ที่เรารวบรวมคัดสรร มาอย่างดีเพื่อความคุ้มค่า ทั้งเงิน และ เวลาการพักผ่อนของคุณและครอบครัว เราได้เสียงตอบรับ ความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีมาโดยตลอด ทั้งลูกค้าบุคคล องค์กรรัฐ บริษัทเอกชน ชั้นนำ ซึ่งให้ความไว้วางใจใช้บริการต่างๆของเรา เป็นประจำ 

Telephone :

Phone : 029357847-8
Fax : 029357846

Website :

ทัวร์, ทัวร์ต่างประเทศ