ระบบ Professional-KNX

ThinkD Think KNX

บริษัทเราเป็น KNX Partner เป็นการการันตีว่าทางบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบ KNX และลูกค้าไว้ใจได้ในระบบอาคารอัจฉริยะที่ทางบริษัทเป็นผู้ออกแบบ

ระบบ home automation ของ ThinkD ใช้ระบบมาตรฐานโลกที่ชื่อว่า KNX

ปัจจุบัน บ้านเรือนหรืออาคารสำนักงานต่างๆ มีความต้องการที่จะควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบแสงสว่าง ระบบรักษาความปลอดภัย มากขึ้น เพราะความต้องการที่จะลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน หรือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยภายในอาคาร มีเทคโนโลยีหลากหลายในแต่ละระบบให้เลือกใช้ในปัจจุบัน แต่การติดตั้งระบบต่างๆภายในอาคารทีละระบบ ทำให้สิ้นเปลืองค่าติดตั้ง ยุ่งยากในการบำรุงรักษาและใช้งาน จึงมีความพยามที่จะรวมระบบไฟฟ้าควบคุมทั้งหมดในอาคารเข้าด้วยกัน โดยใช้ตัวควบคุมกลางร่วมกัน ระบบ KNX จึงถูกพัฒนาขึ้น และเป็นมาตรฐานสากล
เพื่อ ให้อุปกรณ์ต่างๆในระบบควบคุมอาคารทำงานอย่างสอดคล้อง ระบบจะต้องมีมาตรฐานการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์เดียวกัน ซึ่งผู้ผลิตหลายรายได้นำ KNX บัสมาใช้กับผลิตภัณฑ์ เช่น เซนเซอร์ตรวจจับ/ตรวจวัด ไฟส่องสว่าง ไฟประดับอาคาร ม่านไฟฟ้า ประตูไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบประหยัดพลังงาน ระบบปรับอากาศ ระบายอากาศ รีโมทคอนโทรล มิเตอร์วัดไฟ เครื่องเสียง จอภาพ ต่างๆเป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ในระบบ KNX มีการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านทาง สายไขว้ (Twisted Pair) คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) เครือข่ายสายไฟฟ้า (Powerline Network) หรือ Ethernet ซึ่งตัวกลางเหล่านี้นับเป็น Physical Layer ของระบบ KNX

ระบบสมาร์ทโฮมของ ThinkD ทำอะไรได้บ้าง

-  ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ทั้งในเรื่องการตั้งเวลาปิด-เปิด การปิด-เปิดแบบเป็นกลุ่ม การตั้งระดับไฟ  (การตั้งเวลาปิดเปิดจะช่วยเจ้าของบ้านได้มากเวลาที่ไม่อยู่บ้าน)

-  ควบคุมการปิด-เปิด การตั้งระดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น แอร์ มู่ลี่ 

-  ควบคุมการปิด-เปิด ระบบเครื่องเสียงให้เล่นในห้องต่างๆ

-  เพิ่มระบบกันโขมยได้

-  ดูการใช้พลังงานของบ้านเพื่อใช้ในการบริหารจัดการการใช้พลังงานได้ (ข้อนี้เป็นประโยชน์กับอาคารขนาดใหญ่มากกว่าการใช้ภายในบ้าน)

ราคา  

ราคา จะขึ้นอยู่กับว่า จำนวนจุดที่จะติดตั้งมีมากน้อยแค่ไหน  ต้องการการใช้งานในรูปแบบใดบ้าง สำหรับบ้านขนาด 3-4 ห้องนอน ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 300,000 บาท  แล้วจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับบ้านที่ใหญ่ขึ้น ที่มีการควบคุมอุปกรณ์ที่มากขึ้น

ข้อดี

• สามารถคอนโทรลผ่านมือถือ tablet ทั้ง iPhone, iPad, Android ได้
• เป็นระบบ decentralize หากอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งเสีย การควบคุมอุปกรณ์ตัวอื่นๆ ก็ยังใช้ได้อยู่
• เป็นซอฟแวร์เปิด ต่อไปข้างหน้า ถ้าบริษัทยกเลิกการ maintainแล้ว ก็ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่สามารถดูแลแทนได้
• ยืดหยุ่นสูง  สามารถต่อเติม เพิ่มจุดได้ ไม่ต้องรื้อทั้งระบบใหม่ เพียงแต่เดินสายจากอุปกรณ์ไปยังจุดควบคุมก็ทำงานได้แล้ว
• ค่า maintenance ต่ำ เพราะเป็นระบบ decentralize (เวลาเสีย เสียเป็นจุด เวลาซ่อม ก็ซ่อมเป็นจุด ไม่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนทั้งชุด)
• สามารถออกแบบเพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าได้ทุกจุด

ข้อด้อย

• เป็นระบบที่ลงทุนครั้งแรกค่อนข้างสูง
• ต้องออกแบบและติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญและช่างที่มีความสามารถและประสบการณ์